Odoo Partner มีกี่ประเภท

​ ​ก่อนที่จะไปรู้ว่า Odoo Partner มีกี่ระดับ และมีอะไรบ้าง เราก็ต้องมาทำความรู้จักกับ Odoo กันก่อนว่า Odoo คืออะไร?

​ ​​Odoo เป็นซอฟต์แวร์ ERP (Enterprise Resource Planning) ที่ใช้สำหรับบริหารจัดการธุรกิจรูปแบบออนไลน์ มีโมดูลที่ใช้ดูแลธุรกิจแบบครบถ้วนทุกส่วนงาน ตั้งแต่การทำงานเบื้องหน้าไปจนถึงระบบหลังบ้าน ช่วยให้สามารถบริหารจัดการงาน ตั้งแต่บัญชีการเงิน การขาย สินค้าคงคลัง การผลิต ทรัพยากรบุคคล และการตลาด มีแอปพลิเคชันการทำงานมากถึง 66 แอป และมีแอปพลิเคชันของ Third-party มากกว่า 39,000 แอป ซึ่งแอปฯ เหล่านี้จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน และทำให้เราสามารถทำงานได้แบบมี Productivity ที่เพิ่มขึ้น

​ ​​ ​ ​Odoo มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเบลเยี่ยม ทวีปยุโรป และได้ขยายไปยังทวีปอเมริกา ทวีปแอฟริกา ทวีปเอเชีย และทวีปออสเตรเลีย โดยในทวีปเอเชียใกล้ ๆ บ้านเราประเทศไทยนั้น Odoo จะใีัสำหนักงานตั้งอยู่ที่ฮ่องกงและอินโดนีเซีย ถือได้ว่า Odoo เป็น ERP ที่ได้รับความนิยมและใช้งานแพร่หลายในทั่วโลก

​ ​ ​​การที่ Odoo มีความแข็งแกร่งและสามารถขยายสาขาไปยังทั่วโลกได้นั้น ส่วนหนึ่งมาจาก Odoo Partner ที่เปิดให้ผู้ที่มีความสนใจนำ Odoo ไปใช้งาน หรือนำไปพัฒนาต่อเพื่อใช้เป็นหนึ่งในบริการของธุรกิจตนเอง ได้เข้ามาสมัครเป็นพาร์ทเนอร์ และจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการเป็น Partner Official ของ Odoo ไม่ว่าจะเป็นการได้รับการยอมรับว่าเป็น Odoo Official Partner อย่างเป็นทางการในหน้าเว็บไซต์ของ Odoo , การติดต่อกับผู้จัดการที่ดูแลประเทศนั้น ๆ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม, การเข้าอบรมต่าง ๆ ที่ทาง Odoo จัดขึ้น รวมถึงได้รับค่า Commission จากการขาย Enterprise License หรือ https://odoo.sh/ Hosting เป็นต้น ทำให้ในปัจจุบัน Odoo มีพาร์ทเนอร์จากทั่วโลกเข้าร่วมมากกว่า 5,000 ราย

แล้ว Odoo Official Partners มีทั้งหมดกี่ประเภท และมีอะไรบ้าง ตามมาดูกัน!

​ ​​ ​ ​Odoo Partners แบ่งได้ทั้งหมดเป็น 2 Levels คือ Learning Level และ Official Partner Levels

​ ​​​เป็นพาร์ทเนอร์ระดับเริ่มต้น ซึ่งทาง Odoo จะมี Partner Knowledge Base (PKB) เตรียมไว้ให้ (ปกติจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ US$ 3,000 กว่า ๆ) สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเป็นพาร์ทเนอร์กับทาง Odoo

​ ​ซึ่งบริษัทที่อยู่ในระดับ Learning Level จะได้รับสิทธิในการขายและติดตั้ง Odoo, วิดีโอสำหรับ e-Learning Training, การเข้าถึง Partner Knowledge Base (PKB), การเข้าถึง Partner Dashboard, การเข้าถึง Source Code ผ่าน GitHub และ API Connector แต่จะได้รับสิทธิประโยชน์จากการเป็นพาร์ทเนอร์น้อยที่สุด และไม่มีชื่อปรากฏโชว์ในหน้าเว็บไซต์ของ Odoo เหมาะกับบริษัทเล็ก ๆ ที่มพนักงานไม่กี่คน หรือผู้พัฒนาที่เป็น Freelance

​ ​เป็นพาร์ทเนอร์ที่ได้รับการรับรองจากทาง Odoo อย่างเป็นทางการ มีสิทธิประโยชน์ทุกสิทธิที่พาร์ทเนอร์ระดับ Learning Level ได้รับ และจะได้รับการโปรโมทบนหน้าเว็บไซต์ของ Odoo, ได้รับ Lead ที่สนใจต้องการใช้ Odoo ในประเทศนั้น ๆ, ได้รับการซัพพอร์ทจาก Account Manager, มีสิทธิเข้าร่วมจัดงาน Odoo Roadshow ในฐานะสปอนเซอร์ และได้รับค่า Commission จากการขายที่สูงกว่า

​โดยพาร์ทเนอร์ระดับ Official Partner Levels ยังแบ่งออกได้อีก 3 ระดับ คือ

​ ​ ​ ​2.1 ระดับ Ready

​ ​ ​ ​2.2 ระดับ Silver

​ ​ ​ ​2.3 ระดับ Gold

ที่มา : https://www.odoo.com/become-a-partner

​ ​ ​ซึ่งความแตกต่างของพาร์ทเนอร์ระดับ Official Partner Levels แต่ละแบบ หากให้แยกแบบง่าย ๆ เลย จะอยู่ที่จำนวนของ Odoo Enterprise License ที่พาร์ทเนอร์รายนั้นขายได้ในแต่ละปี ซึ่งถ้าใครขาย License ของ Odoo ได้เยอะในปีนั้น ๆ ก็มีโอกาสได้เป็นพาร์ทเนอร์ที่อยู่ในระดับสูงนั่นเอง

​ ​ ​​ดังนั้น การเลือกผู้ให้บริการในการพัฒนาระบบให้กับองค์กร จึงควรเลือกผู้พัฒนาที่เป็นพาร์ทเนอร์ที่ได้รับการรับรองเป็น Odoo Official Partner แต่ไม่ควรเลือกจากระดับของพาร์ทเนอร์ ว่าจะต้องเป็นพาร์ทเนอร์ระดับสูงเท่านั้น แต่ควรเลือกจากประสบการณ์ของผู้พัฒนามากกว่า ว่ามีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบมากน้อยแค่ไหน เคยมีประสบการณ์พัฒนาระบบรูปแบบที่องค์กรเราต้องการหรือไม่ และมีการซัพพอร์ทหลังใช้งานเป็นอย่างไร

​ ​ ​​หากใครสนใจพัฒนาระบบ Odoo ERP ทางเรายินดีให้บริการ Roots เราเป็น Odoo Official Partner ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบมากกว่า 10 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก!