ทำไม Digital Transformation ถึงมีความสำคัญกับองค์กรยุคใหม่

Digital Transformation เริ่มถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก แต่การที่จะปรับเปลี่ยนองค์กรให้เป็น Digital ได้นั้น จำเป็นต้องมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนถึงสิ่งที่องค์กรต้องการขับเคลื่อนไปข้างหน้า โดยใช้ Digital Technology เป็นส่วนที่จะเข้ามาช่วยให้ไปถึงเป้าหมายได้รวดเร็ว ใช้ต้นทุนที่ต่ำลง และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด
19 ตุลาคม ค.ศ. 2023 โดย
Administrator

หนึ่งในหัวใจสำคัญของ

การเริ่มทำ Digital Transformation

คือ การนำข้อมูลที่มีภายในองค์กร

มาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด

กระบวนการในการได้มาซึ่งข้อมูลที่ต้องการถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดขั้นตอนหนึ่ง หากข้อมูลนั้นมีความครบถ้วนสมบูรณ์และมีคุณภาพแล้ว การนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ต่อ จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ไม่ได้มีการนำข้อมูลมาใช้งานเป็นอย่างมาก 


​เราจึงจำเป็นจะต้องตื่นตัว ปรับเปลี่ยนกระบวนการการเก็บข้อมูลให้เป็นระบบ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลที่มีมาใช้งานต่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมไปถึงการนำระบบ Enterprise Resource Planning หรือระบบ ERP มาปรับใช้ เพราะระบบ ERP สามารถช่วยจัดเก็บข้อมูลให้เป็นระเบียบ พร้อมนำไปใช้งานต่อได้ และยังถือเป็นคลังข้อมูลของธุรกิจที่จะทำการเก็บข้อมูลธุรกรรมที่เกิดขึ้นได้ด้วย

​ช่วงต้นปี 2020 ทาง Gartner ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำวิจัยชั้นนำของโลกได้มีการจัดพิมพ์รายงาน 2020 Gartner CIO Survey ซึ่งเป็นผลสำรวจผู้บริหาร CIO ขององค์กรชั้นนำของโลก มีรายงานชุดที่กล่าวถึงกลุ่มองค์กรใน Asia Pacific หรือ APAC จำนวน 198 องค์กร โดยจุดประสงค์หลักของการสำรวจครั้งนี้คือ การรวบรวมข้อมูลจากผู้นำในแต่องค์กร ในเรื่องของผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมไปถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มีการสำรวจว่าองค์กรเหล่านี้ผ่านวิกฤติต่าง ๆ มาได้อย่างไร และปัจจุบันองค์กรให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร 


​จากผลสำรวจกลุ่มบริษัทในภูมิภาค APAC พบว่าส่วนใหญ่กว่า 88% ประสบปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดย 3 ประเด็นหลักพบว่า กว่า 46% ประสบปัญหาในเชิงโครงสร้างองค์กร (Organization Disruption) ที่เริ่มไม่รองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หรือไม่สามารถเปลี่ยนแปลงปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ถัดมาคือ เรื่องของความกดดันทางด้านต้นทุนในการดำเนินการ (Serve Operating Cost Pressure) สืบเนื่องจาก Technology ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เปิดโอกาสให้มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามามากขึ้น ประกอบกับต้นทุนของบริษัทเหล่านั้นน้อยกว่า ทำให้สร้างความกดดันกลับไปที่องค์กรที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน ต้องบริหารจัดการต้นทุนของต้นเองเพื่อไม่ให้บริษัทใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น สามารถเข้ามากินส่วนแบ่งในการตลาดได้ ส่วนอันดับที่ 3 คือ เรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้บริโภค (Shifting Consumer Demand) โดยมีปัจจัยหลักมาจาก Digital Technology ที่เปลี่ยนไป ซึ่งการเข้ามาของ Technology ใหม่ ๆ นั้น สามารถเข้ามาแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากกว่า สร้างความสะดวกรวดเร็วในการใช้งานมากกว่าและที่สำคัญคือ มีต้นทุนที่ถูกกว่าด้วย

รายงาน 2020 Gartner CIO Survey

​จากผลสำรวจ เราจะเห็นในเรื่องของสิ่งที่องค์กรเหล่านี้ให้ความสำคัญ ซึ่งจากผลกระทบดังกล่าว ก็ทำให้องค์กรต่าง ๆ ต้องปรับธุรกิจของตนเอง เพื่อให้สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในธุรกิจของตนได้อยู่

​การทำธุรกิจในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแบบนี้ 3 อันดับแรกที่ควรให้ความสำคัญ คือ เรื่องของ Digital Transformation ซึ่งผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า กว่า 48% ขององค์กรเหล่านี้ ให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากทุกองค์กรตระหนักดีกว่า Digital จะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งหากมองย้อนกลับไปสถานการณ์ในปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งโลกได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ทำให้เห็นได้ชัดว่า Digital เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างมาก พร้อมกับเป็นตัวเร่งให้ทุกธุรกิจมีการปรับตัวโดยใช้ Digital เป็นตัวนำ อันดับถัดมาคือ เรื่องของการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งจากปัญหาที่พบจากผลสำรวจก่อนหน้านี้ ส่งผลให้องค์กรเหล่านี้ต้องกลับมาปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน เน้นเรื่องของการสร้าง Productivity มากขึ้น และอันดับที่สามคือ เรื่องของการวางแผนเรื่องการควบคุมงบประมาณ การหาเงินลงทุนใหม่ ๆ และการควบคุมต้นทุน


รายงาน 2020 Gartner CIO Survey

Transformations are hard, and digital ones are harder

​บริษัทที่ให้คำปรึกษากับองค์กรขนาดใหญ่อีกองค์หนึ่งคือ McKinsey & Company มี Research ที่ทางบริษัทได้ทำเกี่ยวกับเรื่องของ Digital Transformation โดยเฉพาะ ซึ่งจากจำนวนองค์กรทั้งหมดที่ McKinsey & Company ได้ไปสำรวจพบว่า มีองค์กรน้อยกว่า 30% เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จในการทำ Digital Transformation ซึ่งทาง McKinsey & Company ได้สรุปหัวใจสำคัญของความสำเร็จในการทำ Digital Transformation ที่น่าสนใจจากผลสำรวจนี้


​ถึงแม้ว่าหัวข้อของการทำ Digital Transformations จะพูดถึงเรื่องของการนำ Digital Technology มาเป็นตัวนำองค์กร แต่ผลสำรวจนี้บ่งชี้ชัดเจนว่า หัวใจสำคัญกลับไม่ได้อยู่ที่เรื่องของการใช้ Technology แต่ 4 ใน 5 เรื่องกลับเป็นเรื่องของการสร้าง Direction, ความมีส่วนร่วมกันในองค์กรและ Partner เสียมากกว่า ถึงแม้บางองค์กรจะมีการนำ Digital มาใช้งานแล้วก็จริง แต่ก็ไม่สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรได้จริง นอกจาก Technology แล้ว เรายังต้องอาศัยความร่วมมือกันภายในองค์กรในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้วย


​สิ่งที่องค์กรเหล่านี้คาดหวังว่าจะได้จากการทำ Digital Transformation คือ เรื่องของการลดต้นทุนในการดำเนินงานเพื่อให้สามารถยังคงแข่งขันได้ ถัดมาคือ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งบางองค์กรอาจจะนำ Digital เข้ามาเพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ดีขึ้น พร้อมกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าในแบบที่คู่แข่งยังไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการปรับ Model ธุรกิจของตนเอง ซึ่งบางธุรกิจนั้นอาจจะไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาดในอนาคต การเปลี่ยนแปลงตนเองนอกจากพัฒนาผลิตภัณฑ์ตนเองแล้ว อาจจะนำจุดแข็งของธุรกิจตนเองไปสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ได้เช่นกัน

Digital transformation starts from inside

​โดยปกติแล้ว ในหลายองค์กรต้องมีการพัฒนาธุรกิจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในความเป็นจริงการทำ Digital Transformation ก็ไม่ได้ต่างจากการที่องค์กรต้องทำในเรื่องของการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมองจากภาพใหญ่แล้วจะมีด้วยกัน 3 เรื่องคือ เรื่องของกระบวนการทำงาน (Process) ทำอย่างไรถึงจะสามารถสร้างประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานที่มีอยู่ให้ดีขึ้นได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง, เรื่องของบุคคลกร (People) ทำอย่างไรให้บุคคากรมีความรู้ความสามารถมากขึ้น และเรื่องของเทคโนโลยี (Technology) ในการจะมาช่วยการทำงานของคนง่ายขึ้น


Digital Transformation มีด้วยกัน 3 เรื่อง คือ เกระบวนการทำงาน (Process), บุคคลกร (People) และเทคโนโลยี (Technology)


​ซึ่ง 3 องค์ประกอบนี้ มีความสำคัญและเกี่ยวเนื่องกันอยู่ People จะเป็นส่วนที่ดำเนินงานตาม Process ที่วางไว้ หาก Process ดีคนก็ทำงานง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ People ยังทำให้เกิดการพัฒนา Technology ให้ดีขึ้นอีกด้วย โดยในส่วนของ Technology จะเป็นส่วนที่ช่วย Process การทำงานให้สะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพียงแต่ว่าสิ่งที่ทำให้แตกต่างกันคือ สิ่งที่องค์กรต้องคาดหวังที่จะได้รับ


​ส่วนที่ Digital Transformation จะจากแตกต่างจากการพัฒนาองค์กรคือ การที่แต่ละส่วนมีการ Generate Data ของตัวเอง ดังนั้น สิ่งองค์กรคาดหวังคือ การเก็บรวบรวม Data ให้ได้มากขึ้นในทุกกระบวนการเพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาหาข้อมูลเชิงลึก (Insight) ต่อไป โดยการเก็บข้อมูลลักษณะนี้ จำเป็นต้องมีการนำเอา Technology เข้ามาช่วยในกระบวนการทำงานด้วย ดังนั้น หัวใจอย่างหนึ่งของการทำ Digital Transformation ในองค์กรคือ การตระหนักในเรื่องของการนำ Data ไปใช้งานในองค์กรให้มีประโยชน์สูงสุด เราเรียกองค์กรเหล่านี้ว่าเป็น "องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล" หรือ Data Driven Organization นั่นเอง

​จะเห็นได้ว่า Digital Transformation มีความสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรในยุคที่มีการแข่งขันทางธุรกิจที่สูง และการเลือกใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับตัวองค์กรเอง และพนักงานที่เป็นผู้ใช้งานจริงก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน หากธุรกิจของคุณสามารถจับทางถูกแล้ว เชื่อได้ว่าจะต้องสามารถแข่งขันในโลกยุคปัจจุบันนี้ได้อย่างแน่นอน

Administrator 19 ตุลาคม ค.ศ. 2023
แชร์โพสต์นี้